ความประทับในการเรียนวิชา HR 306 ระบบสารสนเทศเกี่ยวกับการจัดการทรัพยากรมนุษย์ เป็นวิชาที่ข้าพเจ้่าต้องตั้งใจฟังเป็นอย่างมาก เพราะเป็นการเรียนที่สามารถนำไปใช้ในการทำงานจริงอนาคตของข้าพเจ้า มีการสอนการทำงานต่างๆ ระบบต่างๆที่ข้าพเจ้ายังไม่เคยทำ และไม่เคยเห็นมาก่อน อาจารย์ก็นำมาสอนให้ข้าพเจ้าได้เข้าใจ มีการสั่งงานให้ทำเป็นทีมและไปสัมภาษณ์ ตามบริษัท ต่างๆ วิชานี้สอนให้ทำเป็นหมดทุกอย่างเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์

ประวัติส่วนตัว

ชื่อ : ธุมา ต่วนเครือ ชื่อเล่น : มายด์
อายุ : 21 เกิดวันที่ : 19 พฤศจิกายน 2534 ที่อยู่ปัจจุบัน : 211 ซ.จรัญสนิทวงศ์63 ถ.จรัญสนิทวงศ์ แขวงบางบำหรุ เขตบางพลัด กรุงเทพ 10700

e-mail : blackblackza_1991@hotmail.com , thumatuankhrua@gmail.com
โทร. 087-544-1110

ประวัติการศึกษา ประถมศึกษา โรงเรียนปิยะพงษ์วิทยา กรุงเทพ มัธยมตอนต้น โรงเรียนสารวิทยา กรุงเทพ มัธยามตอนปลาย สถาบันสันติราษฎร์บริหารธุรกิจ ในพระอุปถัมถ์ฯ กรุงเทพ ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ กรุงเทพมาหานคร

mind map เกี่ยวกับฉัน
เรื่องราวคราวๆเกี่ยวกับตัวฉัน

ครั้งที่ 8 ผลกระทบของ IT ที่มีต่อองค์กร บุคคลและสังคม

ผลกระทบของ IT ที่มีต่อองค์กร บุคคลและสังคม

(Impact of IT on Organizations, Individuals and Society)


หัวข้อ 
7.1 บทบาทความสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ
7.2 ผลกระทบของ IT ต่อองค์กร 7.3 ผลกระทบของ IT ต่อบุคคล 7.4 ผลกระทบของ IT ต่อสังคม


ลักษณะ ของสังคมสารสนเทศ - ระบบเศรษฐกิจเปลี่ยน เกิดเป็นบริษัทข้ามชาติ
- เป็นสังคมเน้นความรู้

สถานการณ์ใหม่ยุคเทคดนโลยีสารสนเทศ  
บทบาทของ IT ในชีวิตประจำวัน เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทและเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันในหลายๆ ด้าน เช่น 1.ธุรกิจทั่วไป เช่น นำคอมพิวเตอร์ไปช่วยภายในบริษัท ซึ่งในบริษัทเองอาจแยกโครงสร้างการทำงานออกเป็นแผนกต่าง ๆ เช่น แผนกบุคลากร แผนกบัญชี แผนกจัดซื้อ 2.ธนาคารใช้ระบบคอมพิวเตอร์ช่วยงานแทบจะครบวงจรทั้งงานด้านการให้บริการแก่ลูกค้า และงานภายในของธนาคารเอง และปัจจุบันก็ให้บริการในการทำธุรกรรมบน Internet มากขึ้น 3.ด้านวิทยาศาสตร์นำคอมพิวเตอร์มาช่วยพัฒนาทฤษฎีต่างๆ ใช้แลกเปลี่ยนข่าวสารระหว่างกันและนักวิทยาศาสตร์ยังใช้คอมพิวเตอร์ในการจำลองเหตุการณ์ต่าง ๆ 4.ด้านวิศวกรรมใช้ในการประดิษฐ์นวัตกรรมใหม่ ๆ เช่น วิศวกรรมยานยนต์ก็จะใช้คอมพิวเตอร์ในการสร้างแบบจำลองรถยนต์รุ่นต่าง ๆ หรือสร้างแบบจำลอง (Model) สำหรับทดสอบการชนและการกระแทก เป็นต้น 5.ด้านอุตสาหกรรมในอุตสหากรรมการผลิตสามารถใช้หุ่นยนต์ทำงานแทนคนสำหรับงานที่เสี่ยงอันตราย เช่น ใช้หุ่นยนต์พ่นสี เชื่อมตัดส่วนโค้งต่าง ๆ ของตัวรถยนต์ 6.ด้านการศึกษานำคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยงานได้เกือบจะทุก ๆ ด้านโดยเฉพาะในเรื่องการพัฒนาสื่อการเรียนการสอนคนเป็นต้น 7.ด้านการแพทย์ใช้ในการวินิจฉัยโรคผ่าตัด ผลิตอุปกรณ์ด้านการแพทย์ 8.ด้านการทหารใช้คำนวณวิธีกระสุนของปืนใหญ่ 9.ด้านการบันเทิงใช้สร้างโน้ตเพลง ออกแบบตกแต่งภาพเสมือนจริง สร้างภาพเคลื่อนไหว สร้างภาพยนต์ Animation เป็นต้น 10.สารสนเทศในชีวิตประจำวันใช้ในการค้นหาข้อมูลข่าวสารที่ต้องการในแต่ละวันแสงซึ่งสอดคล้องกับแสงไฟในบ้าน สามารถ Connect เข้าไปทำงานใน Office ได้โดยผ่านคอมพิวเตอร์ Network 11.ระบบปลุกอัตโนมัติคอมพิวเตอร์จะปลุกให้ตื่นจากที่นอน เจ้าของระบบสามารถเลือกกิจกรรมที่จะทำในแต่ละวัน ตั้งแต่ตื่นนอนจนกระทั่งเข้านอน 12.ระบบบ้านอัจฉริยะระบบภายในบ้านจะสามารถควบคุมโดยอาศัยคอมพิวเตอร์อุณภูมิภายในบ้านจะได้รับการปรับให้คงที่ ม่านจะปรับตามทิศทาง 13.การรักษาผู้ป่วยทาง Internet ให้บริการและผู้ใช้บริการอยู่คนที่กัน เป็นบริการตรวจสุขภาพผ่านระบบเครือข่าย ใช้กล้อง digital และอุปกรณ์ตรวจจับสัญญาณต่าง ๆ เพื่อตรวจอาการผู้ป่วย 14.ห้องสมุดในบ้านสามารถใช้ระบบ Virtual Library จำลองห้องสมุดเสมือนจริง เหมือนยกห้องสมุดมาไว้ที่บ้าน 15.ชิปสมองเทียมสามารถฝังไมโครชิปเข้าไปในสมองมนุษย์ที่กำลังจะตายให้กลับฟื้นมาใหม่ใช้ในการรักษาโรคทางสมองสำหรับผู้สูงอายุ เช่น อัลโซเมอร์ พาร์กินสัน ลมบ้าหมู ฯ

การเปลี่ยนแปลงขององค์กร

IT ส่งผลให้องค์กรเกิดการเปลี่ยนแปลงในเรื่องต่อไปนี้
- พนักงานจะเข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจภายในองค์กรมากขึ้น (Bottom-Up) - ลดการเผชิญหน้าในการสื่อสารมากขึ้น - ลดระดับชั้นขององค์กรลงทำให้การตัดสินใจในการแก้ไขปัญหานั้นเร็วขึ้นดีกว่าโครงสร้างองค์กร แบบเดิมในอดีต - สามารถพัฒนาให้เป็นองค์กรที่ชาญฉลาดมีการเรียนรู้อยู่ตลาดเวลา - การตัดสินใจทำได้รวดเร็วขึ้นไม่ต้องรอนานหรือผ่านกระบวนการที่มากมายเหมือนในอดีต

ผลกระทบของ IT ต่อบุคคล 

IT ส่งผลกระทบต่อตัวบุคคลทั้งทางด้านประโยชน์และโทษดังต่อไปนี้  
1. IT เปลี่ยนบทบาทการทำงานและการตัดสินใจของผู้จัดการ ให้เป็นการตัดสินใจแบบอัตโนมัติ  การตัดสินใจซ้ำ ๆไม่จำเป็นต้องอาศัยประสบการณ์มากเหมือนในอดีต โดยจะใช้ข้อมูลที่ผ่านการวิเคราะห์จากระบบคอมพิวเตอร์และนำข้อมูลนั้นมาประกอบการตัดสินใจ  พนักงานระดับกลางและระดับล่าง   สามารถตัดสินใจงานบางอย่างแทนผู้จัดการได้ โดยใช้ระบบคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วย  นอกจากนี้ผู้จัดการยังทำงานน้อยลงเพราะมี  IT ช่วย แต่ได้งานปริมาณงานมาก  IT  ยังกระทบต่อตำแหน่งผู้จัดการ  กล่าวคือ   มีความต้องการผู้จัดการที่สามารถใช้ IT ได้ และระบบสารสนเทศที่ทำงานบนพื้นฐานของคอมพิวเตอร์ (CBIS) ยังทำให้ลดความสามารถของผู้จัดการลง 
2.  ผลกระทบต่อคนทำงาน   อาจกระทบในเรื่องต่อไปนี้
-  ด้านความพึงพอใจจะมีระบบคอมพิวเตอร์คอยสนับสนุน (support) และตัดสินใจแทนอาจทำให้รู้สึกดีที่งานดูง่ายขึ้น  
-  ผลกระทบด้านจิตใจจะมีความรู้สึกโดดเดี่ยวและขาดมนุษยสัมพันธ์มากขึ้นเนื่องจากมี Internet เข้ามาแทนที่การสื่อการและการทำงานในรูปแบบเดิม

-  ความกังวลในข่าวสารที่มากเกินไปอาจมีความผิดหวังจากคุณภาพของข่าวสารที่ได้รับบน Web site เช่น  เมื่อค้นหาข้อมูล (Search)  จาก web   ข้อมูลอาจถูกดึงออกมาจากหลาย ๆ แหล่งเพื่อแสดงผล แต่ข้อมูลที่นำมาแสดงนั้นอาจมีมากเกินไปและไม่ตรงประเด็น

3.  ผลกระทบต่อสุขภาพและความปลอดภัยถ้าใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานานหลายชั่วโมงอาจทำให้เกิดความตึงเครียดต่อร่างกาย การนั่งทำงานในท่าเดิมซ้ำ ๆ   ทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ  เช่น  หลัง   สายตา  เท้า  ข้อมือ  จังหวะการเต้นของหัวใจ ดังนั้นควรเลือกใชัอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่รองรับสรีละของร่างกาย   

4. ในด้านอาชีพและการแข่งขัน  ถ้ามีความรู้ด้าน IT  โอกาสได้งานก็จะสูงขึ้น คุณวุฒิของงาน ตลอดจนการอบรม Course คอมพิวเตอร์หรือ IT เพิ่มเติมก็ส่งผลต่อผู้สมัครงานด้วยเช่นกัน

ผลกระทบต่อสังคม 


IT มีผลกระทบต่อสังคมทั้งในด้านบวกและลบ  เช่น - มีการปรับปรุงคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นผู้คนสามารถสั่งซื้อสินค้าและบริการต่างๆ แบบ Onlineได้ โดยไม่ต้องเดินทางออกจากบ้านไม่ต้องวุ่นวายกับสภาพการจราจรและประหยัดเวลาได้มาก
-ในเรื่องการดูแลสุขภาพมีการปรับปรุงโดยนำเทคโนโลยีมาใช้มากขึ้น- มีแนวโน้มจะใช้ Robotsมากขึ้น
 - มีการก่ออาชญากรรมด้านคอมพิวเตอร์มากขึ้น ผู้คนบนโลก Cyber ขาดจริยธรรม และความมีน้ำใจของผู้คนก็อาจลดลงมีความเห็นแก่ตัวมีมากขึ้น
- คนถูกลดความสามารถลง มีซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์เข้ามาทำงานแทนที่ลดอัตราการจ้างงาเนื่องจากเจ้าของกิจการลงทุนในเครื่องจักรแทนการทำงานด้วยคน

เทคโนโลยีและการก่ออาชญากรรม

         ตำรวจมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในงานด้านการดูแลความสงบและติดตามการก่ออาชญากรรมมากขึ้น เช่น   การตรวจจับอาชญากรของบ่อนคาซิโนจะใช้ระบบรู้จำใบหน้าในการระบุคุณลักษณะของคนร้าย  ตำรวจได้ติดตั้งกล้อง แต่ในขณะเดียวกันผู้ร้ายก็ใช้เทคโนโลยีคอมพิวตอร์เข้ามาช่วยในการก่ออาชญากรรมด้วยเช่นกัน

การสูญเสียทางด้านวัฒนธรรม

         วัฒนธรรมที่มีมาตั้งแต่อดีตกับความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีสมัยใหม่  จะค่อย ๆ กลืนวัฒนธรรมความเป็นอยู่ไปอย่างช้า ๆ  เมื่อเรานำเทคโนโลยีนั้นมาใช้ ปัจจุบันเกิดความล้มเหลวในการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่เหมาะสมกับการนำออกมาใช้ให้สอดคล้องกับสังคมโดยกว้างซึ่งจะนำปัญหาต่างๆ มาสู่สังคม

                นอกจาก IT จะมีผลกระทบทั้งในด้านบวกและลบแล้ว  การนำ IT มาใช้หรือบริโภค IT ใหม่ ๆ  ยังส่งผลกระทบต่อประเทศชาติด้วย เช่น การใช้ IT ตามกระแสแต่ขาดความจริงจัง  อาจทำให้เสียเงินลงทุนโดยเปล่าประโยชน์  และขาดดุลการค้าให้กับต่างชาติเพราะต้องนำเข้าสินค้าเหล่านั้น  แต่ถ้าหากเราไม่ก้าวตามเทคโนโลยี   ก็อาจส่งผลให้เรารู้ไม่เท่าทันประเทศอื่น  ล้าหลัง  หรือเป็นผู้ด้อยพัฒนาได้เช่นกัน

ครั้งที่7 ความรู้ที่ได้จากการสอบ

สอบครั้งที่ 1

บทที่ 1 - 3 

เรื่อง ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับระบบสารสนเทศ เรื่อง การสื่อสารและข้อมูลทางเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เรื่อง HRIS กับการบริหารคนในองค์การ อัตนัย ข้อ 1 - 24 

ปรนัย ข้อ 25 - 30 การสอบครั้งนี้ ต้องมีการเตรียมตัวและเข้าใจเนื้อหารายละเอียดการเรียนมาอย่างเต็มที่ จึงทำให้การสอบในลักษณะแบบนี้จึงต้องมีการใช้ความคิด ความเข้าใจ ความรู้ที่ได้ฟังในห้องเรียนและจากเอกสารที่อ่านมา การจดจำสิ่งที่อ่าน แต่ละบทก็มีเนื้อหาที่มาก แต่ก็ต้องอาศัยความเข้าใจเป็นส่วนประกอบ จึงทำให้สามารถทำคะแนนได้ดีในระดับหนึ่ง

สอบครั้งที่ 2 สอบบทที่ 4 - 6 

เรื่อง ระบบและตัวแบบ HRIS 1 ข้อ เรื่อง ระบบการจัดการฐานข้อมูล 1 ข้อ เรื่อง การสร้างและออกแบบระบบ HRIS 1 ข้อ  

การสอบครั้งที่2 นี้ เป็นการสอบที่เป็นข้อสอบข้อเขียน โดยในการสอบแบบนี้โดยส่วนตัวแล้ว ชอบ เพราะ เป็นการที่เราได้เขียนสิ่งที่เราเข้าใจ เขียนรายละเอียดต่างๆ เหทือนเรานึกถึงอดีตแล้วบรรยายลงบนกระดาษ บางครั้งอาจอ้อมไปอ้อมมา แต่สุดท้ายมันก้ถึงจุดจบลงได้ และยังเป็นการสอบที่ช่วยในเรื่องคะแนน อีกด้วย ^__^

ครั้งที่ 6 เรื่องการสร้างและการออกแบบ HRIS

การสร้างและออกแบบระบบ HRIS
ระบบสารสนเทศด้านทรัพยากรมนุษย์ (Human resource information system) คือ ซอฟแวร์ชนิดหนึ่งเพื่อบริหารการจัดการวางแผน การจ้่างงาน พัฒนาและฝึกอบรม ค่าจ้างเงินเดือน ฯลฯ ช่วยให้การบริหารทรัพยากรมนุษย์ง่ายขึ้นสะดวก รวดเร็ว และเกิดประสิทธิภาพมากขึ้น 1.1 ข้อมูลตัวบุคลากร 1.2 ผังองค์กร 1.3ข้อมุลจากภายนอก เช่น ประกันสังคม ฯลฯ
คุณลักษณะของสาระสนเทศ ถูกต้อง ความทันสมัย ความสมบูรณ์ สอดคล้องกันมั้ย การตรวจสอบได้ ความรวดเร็ว ความปลอดภัย ความสามารถในการเปลี่ยนแปลง
สิ่งที่ทำให้การพัฒนาระบบสารสนเทศ การมีส่วนเกี่ยวข้องผุ้ใช้ระบบ มีการนำเอกสารจัดโครงการ มีการพัฒนาอย่างรอบคอบ การออกแบบซอฟแวร์ เอกสารและคู่มือสำหรับระบบใหม่ กาารติดต้้งระบบและอบรมผู้ใช้ การตรวจสอบระบบหลังการจัดการดำเนินการเพื่อประเมินว่าสอดคล้องกับความต้องการ ระบบได้ถูกออกแบบในลักษณะที่ง่ายต่อการดูแลรักษาและติดตามผล
หลักการในการรวบรวมข้อมูล กำหนดกลุ่มผู้ใช้ข้อมูลในระบบงานต่างๆ ทบทวนเอดสารที่ใช้งานอยู่ซึางเป็นการศึกษาและวิเคราะห์เอกสาร การสำรวจความต้องการ แนวคิดการพัฒนาระบบดัึ้งเดิม 1 การตรวจสอบเบื้องต้น 
2 การวิเคราะห์ตามความต้องการ 3 การออกแบบและพัฒนาระบบ 4 การจัดหาระบบ 5 การนำระบบไปใช้และดูแลรักษา การออกแบบส่วนแสดงผลและส่วนนำเข้าของระบบ

การออกแบบส่วนแสดงผลของระบบ -เนื้อหา -รูปร่าง
-ปริมาณของส่วนที่แสดงผล -ทันเวลา -สื่อ -รูปแบบ

-ปริมาณข้อมูลที่นำ้เข้า

ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ
ฮาดแวร์ หน่วยรับข้อมูล หน่วยประมวลผลกลาง หน่วยแสดงผล หน่วยความจำสำรอง
ซอฟท์แวร์ -ซื้อซอฟท์แวร์ประยุกต์ ข้อดี 1 สามารถติดตั้งพร้อมใช้งานในระยะเวลาอันสั้น 2มีความเสี่ยงน้อย 3คุณภาพโปรแกรมอยู่ในระดับที่สูง 4ราคาถูก ข้อเสีย 1โปรแกรมอาจจะทำงานร่วมกับขององค์กรอื่นๆๆไม่ได้ 2ไม่ทราบความต้องการที่แท้จริงของผู้ใช้ 3การพัฒนาปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมไม่ได้ หรือได้แต่อาจมีค่าใช่จ่ายที่สูงหรือเป็นำปด้วยความลำบาก
เครื่องมือที่ใช้ในการออกแบบโปรแกรม โปรแกรมผังงาน (Program flowcharts)
รหัสเทียมหรือรหัสจําลอง (Pseudo code) แผนภูมโครงสร้าง (Structure charts)
เครื่องมือภาษาที่4 (4 GL tools) โปรแกรมเชิงวัตถุและเครื่องมือการออกแบบ
การสร้างโปรแกรมระบบ โปรมแกรมประยุกต์ที่สามารถช่วยในการออกแบบ 1. Web design by Dream weaver 2. Professional Web Design By Thai graph 3. Web design By Photoshop
4. Web design By Photoshop
เวปไซด์ที่สามารถช่วยในการเรียนรูปการออกแบบระบบมีดังนี้ • http://www.thaimisc.com • http://www.thaigraph.com • http://www.webthaidev.com • http://www.riudon.ac.th • http://www.geocities.com/Pentag
วงจรการพัฒนาซอฟท์แวร์ รหัสเทียม
การสำรวจระบบ
การวิเคราะห์ระบบ
การออกแบบระบบ
การเขียนโปรแกรม
การทดสอบระบบ
การนำระบบไปติดตั้ง
การปฏิบัติและการบำรุงรักษา

การออกแบบโปรแกรม
งบประมาณสูงในการบำรุงรักษา
เครื่องมือ
โปรแกรมผังงาน

ครั้ง 5 การสื่อสารข้อมูลและเครือข่ายคอมพิวเตอร์ (Mind map)

สิ่งที่ได้รับจากการเรียนรู้
1. อาจารย์ส่งเมลล์เอกสารให้นักศึกษาเพื่อนำมาศึกษา 2. อาจารย์สอนเรื่อง การสื่อสารข้อมูลและเครือข่ายทางคอมพิวเตอร์ 3. อาจารย์จะพูดเรื่อง ฮาร์ดแวร์ 4. อาจารย์จะสอนเรื่องการเขียน Mind map 5. mind map เป็นแผนที่ความจำอันล้ำลึก ช่วยให้จัดระเบียบข้อเท็จจริงและความ คิดของคุณในรูปแบบที่เป็นธรรมชาติ 6. อาจารย์สั่งงาน map แรกเขียนถึงตัวเราเอง map 2 ทำเป็นกลุ่ม 7. อาจารย์ยกตัวอย่างการเขียน Mind map 8. อาจารย์แสดงตัวอย่าง Mind Map เรื่อง หน้าที่ของสมองซีกซ้ายกับซีกขวา
9.Mind คือ จิตใจ Map คือ แผนที่ 10. องค์ประกอบของ Mind map

mind map " ใจ "
ใจเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงจากความรู้สึก ความคิด จิตนาการ สิ่งที่ได้รับรู้ต่างๆ
ที่หัวใจนั้นได้รับความรู้สึก
ู

mind map สรุปบทที่2 การสื่อสารข้อมูลและเครือข่ายคอมพิวเตอร์

การสื่อสารแบบไร้พรมแดน

ครั้งที่4 ระบบและตัวแบบ HRIS

ระบบและตัวแบบ HRIS ระบบ คือ ระบบในหน่วยงานแบ่งระบบเป็นย่อยๆและมีการทำงานเกี่ยวข้องกันและสัมพันธ์กันเป็นเครือข่าย 1.องค์ประกอบของระบบ สิ่งที่สามารถสัมผัสได้คือ เป็นสิ่งที่เป็นวัตถุสิ่งของหรือสิ่งมีชีวิตที่สามารถจับต้องได้และแนวคิดมที่เป็นนามประธรรมคือข้อมูลดิบ หรือข้อมูลข่าวสารหรือ เหตุการณ์ คือสิ่งที่สวามารถสำผัสได้ หรือแนวคิดเป็นนามประธรรมที่สามารถสัมผัสได้  สภาพแวดล้อมของระบบ
ภาพสัญลักษ์ทางเลขาคณิตแต่ละภาพในรูปได้แสดงส่วนประกอบแต่ละอย่างของระบบ 2.ระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารทรัพยากรมนุษย์เป็นการนำข้อมูลเกี่ยวกับทรัพยากรมนุษย์มาทำการเปลี่ยนแปลงและปรับปีรุงให้เป็นสารสนเทศที่มีประสิทธิภาพแก่องค์กรโดยเริ่มจากการเก็บข้อมูลการประมวลผลจนถึงการวิเคราะห์สารสนเทศที่ได้ผลลับออกมา
3.ระบบเก็บเอกสารของพนักงาน เป็นการจัดเก็บเอกสารข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับบุคลากรภายในองค์กรโดยในที่นี้เป็นยการเก็บรวมรวบสารสนเทศในหน่วยงานต่างๆ ขององค์กรและรวมรวบไว้ในตู้แฟ้มเอกสารเดียวกัน หรือฐานข้อมูลระบบคอมพิวเตอร์
ส่วน HRIS เป็นส่วนที่เกี่ยวข้องและเชื่อมโยงกับฝ่ายอื่นๆ เช่น ฝ่ายบริหาร ฝ่ายการเงิน ฝ่ายการตลาด เพราะว่าทุกฝ่ายจะมีทรัพยากรมนุษย์เป็นตัวหลักในการทำงานในองค์กร 3.1 ระบบย่อยของ HRIS 3.2 การออกแบบขั้นตอนการทำงานของระบบ HRIS ระบบต่างๆของตัวแบ ซึ่งในที่นนี้จะเรียกว่า Model เพื่อให้ต่อการเข้าใจเมื่อทำการศึกษาระบบต่างๆ โมเดลจะเป็นตัวแทน ตัวแทนแสดงส่วนประกอบของความจิง เช่น วัตถุแนวคิดหรือเหตุการณ์ หรือเป็นกลุ่มของส่วนประกอบ และความสำผัสระหว่างกลุ่ม